Title : บัวไร้ใบบัง

Paring : Kokushibou x Doma

Rate : 🔞

Note : อาจจะรำคาญภาษาของเรานิดนึงนะคะ แหะๆ เพิ่งอ่านจุฬาตรีคูณจบ อยากเขียนอะไรสวยๆมั่ง หวยออกโคคุโดมะเลยค่ะ ไม่มีให้กินเลย หิวมาก หวังว่าจะเอ็นจอยนะคะ

*ปล. ไปเล่นอันนี้มาค่ะ เขาว่าให้จุ้บสะโพก อ่ะแหะๆ

sds

… 

สายลมซับเอากลิ่นสนิมหอมรัญจวนเจือในอากาศ ฉ่ำหวานที่เหล่าอสูรล้วนโปรดปราน กลิ่นของเลือดหายากปลุกความกระหายให้เต้นเร่าใต้ผิวหนัง งอกเงยออกมาเป็นเขี้ยวโค้งและคมเล็บก่อนที่มันจะค่อยๆจางลง

ระลอกคลื่นกระเพื่อมแผ่วคราท่อนขาเปลือยเปล่าก้าวลงในสระน้ำ ชำระคาวเลือดออกจากเรือนกายท่ามกลางสายตาของจันทร์ข้างขึ้นที่สอง

สวรรค์ยังเป็นของมายา จะนับประสาอะไรกับความอับอายกันเล่า

ม่านรุ้งขยายรับภาพอสูรกลางสระวักน้ำขึ้นอาบท่อนแขนเปื้อนเลือด น้ำเย็นควบโลหิตจนกลายเป็นหยดสีแดงระเรื่อกลิ้งลงจากไหล่ตั้งตรงลงสู่สะบัก แพผมสีหมึกแผ่สยายพรางแผ่นหลังกว้างจรดเนินก้นกก ค่อยๆจมลงใต้ผิวน้ำ ภาพสะท้อนจันทร์สองดวงประชันโฉมกันบนลานกระจกวารีริบความอายและลมหายใจของเจ้าลัทธิสรวงสวรรค์นิรันดร์ไปพร้อมกัน

จันทร์นั้นอยู่สูงสุดฟ้า สุดคว้า

เพียงสายตาเท่านั้นที่แตะต้องได้

“ท่านจะมองจนข้าอาบเสร็จเลยไหม ข้างขึ้นที่สอง” 

คำถามนั้นคลี่พัดสีทองสบัดโบก ระบายไอร้อนบนผิวแก้ม ศาสดายังคงนั่งมองผู้มาเยือนอย่างสบายอารมณ์ 

“โดนจับได้เสียแล้ว” โดมะโปรยยิ้มแต่สายตายังคงจ้องไปที่ร่างของอีกฝ่าย เอวสอบบิดเอี้ยวกลับมามอง หยดน้ำสะอาดใสเลาะร่องมัดกล้ามข้างชายโครงลาดลงสู่เนินสะโพกหนั่นแน่น

เพลงดาบของผู้ใช้ปราณที่ว่ารวดเร็วและสร้างความเสียหายรุนแรงต่อเหล่าอสูรล้วนมากจากกล้ามเนื้อน้อยใหญ่ที่ทั้งสมบูรณ์ แข็งแรง และทรงพลังดังที่ปรากฎเบื้องหน้า แม้ไม่นุ่มเนียนเหมือนเนื้อสตรีที่เคยลิ้มรส แต่ถ้าได้ฝังเขี้ยวลงบนเนื้อแน่นๆเช่นนั้น 

คงเต็มปากเต็มคำไม่น้อยเชียว

“เมื่อรู้ตัวก็ควรสำรวม ไม่ใช่จ้องตาเป็นมัน”

โคคุชิโบยังคงดุเก่งดังเดิม เจ้าระเบียบดังเดิม และน่าเบื่อดังเดิม หากตัดนิสัยถือเนื้อถือตัวออกไปบ้าง ไม่แน่ว่าเขากับจันทร์ลำดับที่หนึ่งอาจได้สนิทชิดเชื้อกันมากกว่านี้

“มีอสูรมาอาบน้ำในสระของข้า ข้าก็ต้องมาเฝ้าสิขอรับ”

ปลายเล็บคมแตะผิวน้ำแผ่วเบา ปล่อยมนต์อสูรโลหิตหล่อดอกบัวน้ำแข็งขึ้นมาจากสระ ไล้ลูบกลีบแก้วแวววาวอย่างอารมณ์ดีพลางชมอสูรรูปงามชำระล้างร่างกาย

โคคุชิโบปรายมองเมื่อศาสดาเสกบัวน้ำแข็งดอกที่สอง แต่ครั้งนี้เจ้าตัวไม่เล่นเปล่า เรียวปากบอบบางแตะลงบนกลีบแก้วเย็นเยียบ ก่อนจะส่งบุษยสาส์นลอยผ่าผิวน้ำไปสู่วงพระจันทร์ที่มั่นหมาย

รอยจูบบนกลีบน้ำแข็งกระทบสีข้างของนักดาบอสูรเบาๆเชิงเว้าวอนให้โคคุชิโบแบ่งความสนใจมาให้สักนิดหนึ่ง ซึ่งก็เป็นดั่งหวัง ดวงตาทั้ง 6 กลับมามองเจ้าลัทธิรูปงามที่นั่งอยู่บนฝั่งศาลา ดอกบัวหลายสิบดอกลอยละล่องมาหาเขา ยิ้มทะเล้นซ่อนตัวอยู่หลังพัดสีทองแต่โดมะเก็บมันได้ไม่มิดนัก

โคคุชิโบเห็นแววเชื้อเชิญผ่านนัยน์ตา 7 สีคู่นั้นชัดเจน

“จะหยุดเสกบัวได้รึยัง” จันทร์ในน้ำถามขึ้น เสยเส้นผมเปียกชื้นปาดหยดน้ำที่เกาะบนใบหน้า ไอเย็นจากน้ำแข็งถ่ายลงสู่น้ำในสระให้เย็นตามจนโคคุชิโบไม่อาจนิ่งเฉย

“ไม่สวยรึ” โดมะเอียงคอ เฝ้ามองนักดาบอสูรรวบผมยาวขึ้นบิด รีดน้ำออกจนหมาด อีกไม่ช้าอีกฝ่ายก็จะจากไป

เหมือนเคย

“ไม่” โคคุชิโบเดินกลับเข้าฝั่ง ทิ้งให้เจ้าลัทธิหลบสายตากลับไปที่หลังพัด เก็บดอกบัวดอกสุดท้ายไว้ในอุ้งมือ

“ท่านเนี่ยมีตั้ง 6 ตา ไม่ลองมองอะไรให้มันกว้างๆดูบะ…”

คำของโดมะขาดลงในขณะนั้น

โคคุชิโบกลับมาปรากฎกายตรงหน้าเขา คมคาตานะอสูรจี้มาบนซี่พัด สะกิดปลายบ่ายมันให้พ้นจากหน้าของข้างขึ้นที่สอง 

“มีของที่สวยกว่าบัวของเจ้านัก” 

“มีของพรรค์นั้นด้วยรึ” โดมะย้อนถามพลางกระถอดกายขยับถอยเมื่อสัมผัสได้ถึงอายอสูรดุดันจากแรกจันทร์ข้างขึ้นที่แผ่โอบล้อมรอบตัวชวนให้ลมหายใจพรั่นพร่า แสงเงินตกกระทบแผ่นหลังเปลือยที่คืบขยับขึ้นมาบนศาลา ดวงตาทั้ง 6 เรืองรองใต้เงา ดูอันตรายและเย้ายวนเหลือแสน

“อยู่นี่อย่างไร” ฝ่ามือเย็นเฉียบกระชับคางของข้างขึ้นที่สอง ก่อนจะดึงโดมะเข้าหา ร่างของศาสดาโน้มตามแรง เผยอกลีบปากรอการตีประทับ

“ท่านโคคุชิโบ”

กระแสเว้าวอนผ่านเสียงและมือเรียวที่นาบลงบนหน้าขาเปียกชื้น ร่างเปล่าเปลือบของนักดาบอสูรช่างงดงาม ไร้ที่ติจนเขาอยากจะเชยชมทุกส่วนสัด ลำคอแห้งผากกระหายจะโลมเลียทุกหยดน้ำบนแผ่นอกกว้าง 

“ผิวเย็นไปหมด” โดมะรำพึงขณะแตะแขนที่คร่อมทับ

“ทำให้อุ่นเสียสิ” สุ้มเสียงกังวานแว่วกระซิบริบใบหู ก่อนที่ศาสดาจะลงมือปลดเข็มขัดออกจากเอว ในขณะที่ฝ่ามือเปียกชื้นล้วงเข้ามาใต้สาบเสื้อสีแดงสด

“อาาา…ท่านโคคุชิโบ” 

หน้าขาค่อยๆขยับอ้า รับช่วงเอวหนาบดแทรกเข้ามาหว่างกลาง หยดน้ำซึมผ้าเป็นด่างดวงพาให้เสื้อผ้าของโดมะเย็นชื้น 

“ทะ…ท่านจะทำอะไร” เจ้าลัทธิถามเสียงอ่อนเมื่อสาบเสื้อถูกเลิกขึ้นอวดแผงอกซีดเนียน พะเยิบไหว เพียงโคคุชิโบลากมือผ่า เสียงครวญวะแว่วก็หวีดหวิว ข้อนิ้วแข็งแรงกางขยายออกขยำคู่อก ขยุ้มนวดจนโดมะตัวอ่อน เอนลงนอนบนพื้นศาลา

“อยากให้ข้าชมไม่ใช่หรือเจ้าตัวดี” เสียงดุปนเย้าผสานเสียงร้องหวาม โคคุชิโบฉวยโอกาสนาบจูบกรองเสียงร้องรัญจวนให้แผ่วลง ลิ้นร้อนกระหวัดแลกรัด เลือดหายากยังคงค้างอยู่ในรสจูบและลมหายใจของจันทร์ที่หนึ่ง เร้าให้โดมะยกตัวขึ้นหา

“อื้มมม อืมมมม” เสียงเล็กๆสั่นครือเมื่อแผ่นอกถูกรุกหนัก นิ้วเย็นของโคคุชิโบสะกิดส่วนอ่อนไหวให้เต่งตั้ง หัวนมถูกคีบไว้ระหว่านิ้วชี้และนิ้วกลาง เล้าโลมให้เหยียดแข็งก่อนจะก้มลงดูดชิมไม่เกรงใจเจ้าของที่ร้องระงมด้วยความซาบซ่าน

บัวดอกสุดท้ายละลายเป็นแอ่งน้ำเย็นเล็กๆซึมไม้กระดานศาลาที่ลั่นด้วยแรงโยก คู่บัวของศาสดาประดับรอยขบดูดเป็นจ้ำ ก่อนที่จันทร์ดวงงามจะกระชับเรียวขาที่พาดอ้าไว้มั่น สะโพกแทงสวนเข้ามาถี่ยิบจนคนรับตาพร่าเยิ้ม โดมะทิ้งแขนอ่อนแรงลงบังใบหน้าแดงก่ำ เสียงคำรามของโคคุชิโบผสานเสียงไม้ลั่นและเนื้อที่กระทบถี่รีดเค้นความเสียวซ่านหยดสุดท้ายของค่ำคืนถะถั่งคามือของนักดาบอสูร

“อืมมมม” ท่อนเนื้อถอนพรวดจากช่องทางร้อนรัด ใบหน้าที่มักจะนิ่งขรึมอยู่เสมอซวนซบลงบนอกของโดมะ มือใหญ่รวบแก่นกายทั้งสองไว้ด้วยกันก่อนจะเร่งจังหวะ

“ขึ้นมา” โดมะครางอ้อน จี้นิ้วลงกลางอกเป็นสัญญาณ “ตรงนี้ขอรับ” 

ลำคอเรียวถูกกรงเล็บตอกตรึงกับพื้น ดวงตาสีรุ้งเยิ้มหวานจ้องส่วนพองขยายที่เสือกไสเข้ามากลางร่องอก หน้าขาของโคคุชิโบขนาบข้างตัว ส่งสะโพกโยกเข้าหาหว่างอกที่โดมะบีบจนเบียดคับ เม็ดเหงื่อโซมกายจนผิวเนื้อซีดขาวมันขลับขยับหน้าท้องแน่นซอยถี่ ดวงตาทั้ง 6 หรี่ปรือเมื่อมวลตัณหาแตกพร่างจนตาพร่า 

คาวอสูรสาดบนอกของเจ้าลัทธิ กระฉอกสุดท้ายยืดหยดลงบนไตนุ่มสีเนื้อจนคนมือซนอดละเลงเล่นไม่ได้

“โดมะ เจ้านี่นะ!” โคคุชิโบเริ่มกลับมาดุอีกหน ถึงจะดุอย่างนั้น แต่มือที่ลูบเกลี่ยแก้มของโดมะกลับนุ่มนวลนัก

“ข้าอยากล้างตัวจัง” เจ้าของตาสีรุ้งซบอ้อน 

“เสกบัวเล่นจนน้ำเย็นไปหมด จะเอาที่ไหนมาล้าง” โคคุชิโบบีบแก้มแก้มันเขี้ยว

“ล้างตัวแค่ครู่เดียว” นิ้วซุกซนไต่หน้าขาจันทร์ข้างขึ้นที่หนึ่ง ส่งตาเล็กตาน้อยเชิญชวน “เสร็จแล้วค่อยไปดูบัวในห้องข้าต่อดีไหม”

“ทำไมต้องไปดูถึงในห้องเล่า” โคคุชิโบย้อนถาม

“บัวเพิ่งจะบานนะขอรับ” โดมะหัวเราะตอบก่อนจะโน้มเข้าไปกระซิบ “อยากได้น้ำเยอะๆ”

“เจ้าตัวแสบ”

….END…. ​

Photo by Susanne Jutzeler from Pexels